เพื่อนกันตลอดไป สุนัขตรอมใจตาย หลังเจ้าของจากไปด้วยโรคมะเร็ง

เพื่อนกันตลอดไป สุนัขตรอมใจตาย หลังเจ้าของจากไปด้วยโรคมะเร็ง

สุนัขคือเพื่อนแท้ที่ซื่อสัตย์ที่สุดของมนุษย์ ประโยคนี้ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลย จะมีใครบ้างที่จะรักเราสุดหัวใจ และเราคือโลกทั้งใบของเขา แม้แต่วันที่ความตายมาพรากจาก ความเศร้าของเจ้าหมาน้อยก็ทำให้มันตรอมใจตายตามเจ้าของเรื่องราวสุดสะเทือนใจนี้เกิดขึ้นกับครอบครัว Hutchison (ฮัทชิสัน) 

จากสกอตแลนด์ เมื่อหนึ่งในสมาชิกของครอบครัว “Stuart (สจวร์ต) Hutchison” ตรวจพบว่าตัวเองมีเนื้องอกในสมองเมื่อ 8 ปีก่อน แม้จะมีการผ่าตัดและเคมีบำบัดหลายครั้ง แต่ชายหนุ่มวัย 25 ปีก็ไม่สามารถเอาชนะความเจ็บป่วยอันทุกข์ทรมานจากอาการกำเริบสองครั้งได้ และเขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม

ปรากฏว่าสุนัขเฟรนบลูด็อกของ Stuart ก็ตายลงหลังจากเจ้านายของมันลาโลกไปได้เพียง 15 นาที แม่วัย 52 ปีของ Stuart เล่าว่า ลูกชายมีสุนัข 3 ตัว แต่เขาสนิทกับเจ้า “Nero” ที่สุด  Stuart เสียชีวิตลงประมาณบ่ายโมง 15 นาที หลังจากนั้นอีก 15 นาที เจ้า Nero ก็ตายตาม

Danielle ภรรยาของ Stuart รู้สึกใจสลายมากที่ต้องสูญเสียทั้ง 2 ไป ทางครอบครัวตัดสินใจนำ Stuart กลับมาอยู่ที่บ้านอาทิตย์ก่อนหน้า ตามคำขอของเขาว่าอยากจากไปอย่างสงบที่บ้านตัวเอง

ก่อนหน้านี้ในเดือนมีนาคม หมอกล่าวว่าเคมีบำบัดทำงานได้ดี เขาและแดเนียลไปเที่ยวสเปนในวันหยุดช่วงเดือนพฤษภาคม และตอนนั้นเองที่เขาเริ่มมีอาการปวดมือ Stuart ไปตรวจสุขภาพและพวกเขาเชื่อว่าไม่มีอะไรผิดปกติ

กระทั่งถึงเดือนมิถุนายน สัญญาณของโรคก็เริ่มส่งผลกระทบต่อแขนของเขา เมื่อพวกเขาทำการสแกน จึงเห็นว่ามะเร็งได้ลามสมองทั้งหมดของเขาและแพร่กระจายไปยังกระดูก กระดูกเชิงกราน

สื่อต่างประเทศรายงานว่า มีผู้ป่วยจากโรคปริศนาที่ส่งผลต่อปอด และเป็นเหตุให้ผู้ป่วยดังกล่าวเสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากการสุปบุหรี่ไฟฟ้าไม่มากก็น้อย. มีรายงานจากกรมควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯว่า ตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนถึงปัจจุบัน มีผู้ป่วยในลักษณะโรคเดียวกันกับผู้เสียชีวิตถึง 193 ราย โดยพบมากสุดในมลรัฐอิลลินอย มีผู้ที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้า ต้องเข้ารับการรักษาในลักษณะโรคดังกล่าวเพิ่มมากเป็นท่าตัวในช่วงไม่กี่วัปดาห์ที่ผ่านมา”

ปัจจบันในมลรัฐอิลลินอยมีผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรคดังกล่าวถึง 22 ราย และ 12 รายในนั้นต้องเฝ้าระวังเป็นกรณีพิเศษ โดยผู้ป่วยเหล่านี้อยู่ในช่วงวัยระหว่าง 17-38 ปี โดยอาการที่เป็นได้ชัดคือการหายใจติดขัด มีอาการเจ็บหน้าอก หรือบางรายมีการอาเจียน ท้องเสียและอ่อนเพลีย”

นี่ถือเป็นครั้งแรกที่บุหรี่ไฟฟ้าถูกตั้งข้อสังเกตุว่าเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต และถึงตอนนี้แพทย์ก็ยังไม่สามารถอธิบายสาเหตุของโรคดังกล่าวได้ ขณะที่กรมควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐได้ขอให้แพทย์ทำรายงานอธิบายลักษณะอาการป่วยทางปอดที่คาดว่าเกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ผู้ป่วยใช้ก่อนหน้า เพื่อทำการสำสวนหาสาเหตุต่อไป”

ควันจากไฟไหม้ป่าอเมซอน ปกคลุมบราซิลจนมืดมิด

ป่าอเมซอน – สถานการณ์ไฟไหม้ป่าอเมซอน ซึ่งเปรียบเสมือนปอดของโลกกำลังย่ำแย่หนัก livescience รายงาน ไฟไหม้ป่าในอเมซอนเพิ่มขึ้น 82% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว (ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงสิงหาคม) ตามรายงานของ ตามการรายงานของ El Pais

“ไฟป่าในอเมซอนไม่ได้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่มีสาเหตุร่วมกันของภัยแล้งและกิจกรรมของฝีมือมนุษย์” นักวิจัยตีพิมพ์ผลการศึกษาลงในวารสารNature “ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของมนุษย์และการทำลายป่าในภูมิภาคนั้นเชื่อมโยงกับการเพิ่มขึ้นของความรุนแรงและความถี่ของความแห้งแล้งที่ป่าอเมซอน”

จากอดีตที่ผ่านมาการเกิดไฟป่าในอเมซอนนั้นเกิดขึ้นได้ยาก แต่ช่วงเดือนกรกฎาและสิงหาคมอันแห้งแล้ง หอสังเกตการณ์โลกของนาซ่ารายงาน ว่าพบการใช้ไฟของมนุษย์ในการแผ้วถางพื้นที่การเกษตรและวัตถุประสงค์อื่น ๆ (โดยปกติกิจกรรมจะเริ่มขึ้นในต้นเดือนกันยายนและส่วนใหญ่จะหยุดในเดือนพฤศจิกายน) ส่งผลให้เกิดไฟป่าอันมีสถานการณ์น่าเป็นห่วงอยู่ในขณะนี้ ผลจากไฟป่าอเมซอน ทำให้ควันมวลมหาศาลเคลื่อนเข้าปกคลุมท้องฟ้าเมืองซานเปาโล ประเทศบราซิล เปลี่ยนกลางวันให้มืดครึ้มราวกับกลางคืน

Mongabay รายงานว่า การศึกษาแสดงให้เห็นว่าการตัดไม้ทำลายป่าสามารถเปลี่ยนแปลงอเมซอนได้อย่างสิ้นเชิง หากอเมซอนถูกทำลายไป 20% ถึง 25% ความน่าสะพรึงกลัว คือ สภาพภูมิทัศน์ของอเมซอนสามารถเปลี่ยนจากป่าดิบชื้นเป็นสะวันนาได้เลยทีเดียว

ปัจจุบันเปอร์เซนต์การตัดไม้ทำลายป่าอยู่ที่ 17%  สถานการณ์ไฟไหม้ป่าอเมซอน รุนแรงถึงขนาด hashtag #PrayforAmazonia ขึ้นติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ของโลก

มติที่ประชุมต่างเห็นพ้องกันว่า ไม่สามารถประกอบการเดินรถได้ตามปกติ เพราะต้องแบกภาระต้นทุนที่สูงขึ้นจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง แบกต้นทุนเพิ่มขึ้นถึง 1,600 บาทในสัปดาห์นี้ เนื่องจากราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 35 บาทต่อลิตร

นอกจากนี้ยัง คาดว่าสิ้นเดือน มิ.ย. ราคาน้ำมันดีเซลมีแนวโน้มปรับราคาขึ้นเป็น 38 บาทต่อลิตร แต่เพื่อประคับประคองธุรกิจไม่ให้ต้องแบกภาระจนต้องปิดกิจการ ผู้ประกอบการจึงมีมติกำหนดให้ลดเที่ยววิ่งลง 80% ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. เป็นต้นไป จากการเดินรถ 100% เช่นมีรถโดยสาร 100 เที่ยววิ่งต่อวัน จะลดเหลือ 20 เที่ยวต่อวัน ขณะนี้ผู้ประกอบการอยู่ระหว่างแจ้งความประสงค์ปรับลดเที่ยววิ่ง

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป